รับจํานองบ้าน

รับจํานองบ้าน

รับจํานองบ้าน การจำนำคือ การที่ “ผู้จำนอง” เอาเงิน(เป็นต้นว่าที่ดิน หรือบ้านพร้อมที่ดิน) ของตัวเองตราไว้กับ “ผู้รับจำนำ” เพื่อเป็นประกันการจ่ายหนี้ที่สมบูรณ์ โดยที่ผู้จำนองไม่ต้องมอบที่ดินหรือสินทรัพย์ดังกล่าวข้างต้นให้แก่ผู้รับจำนองผลของข้อตกลงจำนอง ผู้รับจำนำมีสิทธิ์ได้รับใช้หนี้ใช้สินจากสินทรัพย์ที่จำนำก่อนเจ้าหนี้รายอื่น และผู้รับจำนำมีสิทธิเรียกสินทรัพย์จำนองนั้นหลุดเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเองได้การบังคับจำนอง ข้อบังคับกำหนดให้ควรจะมีหนังสือบอกไปยังลูกหนี้ให้ใช้หนี้ภายในช่วงระยะเวลาที่ระบุ ถ้าเลยช่วงเวลาดังกล่าวเจ้าหนี้จะฟ้องร้องบังคับให้สั่งยึดทรัพย์สินรวมทั้งขายทอดตลาดได้ขอบเขตของสิทธิจำนำ ผู้รับจำนองมีสิทธิบังคับจำนองได้เฉพาะสมบัติพัสถานที่ขึ้นทะเบียนจำนองเ่ท่านั้น จะบังคับเงินทองอื่นที่มิได้ลงทะเบียนจำนำไม่ได้ เป็นต้นว่าจำนองเฉพาะที่ดิน ก็บังคับได้เฉพาะที่ดินไม่สามารถบังคับจำนำบ้านที่สร้างภายหลังขึ้นทะเบียนจำนองได้ ยกเว้นตกลงกันไว้ว่าให้รวมถึงสิ่งก่อสร้างที่อาจมีตอนหลังจดทะเบียนจำนำ กระเป๋านต้น

รับจํานองบ้าน

คำสัญญาขายฝากเสียเปล่าลงนามขายฝากทั้งทีก็จำต้องมองให้มันดีๆมิฉะนั้นมันจะเสียเปล่า สำหรับไม่ว่าใครที่ต้องการจะลงนามขายฝากนั้นก็ต้องดูรายละเอียดเกี่ยวกับข้อจำกัดต่างๆให้ดี ไม่ว่าจะเรื่องของจุดประสงค์หรือเรื่องของทางด้านกฎหมายก็ตาม เพราะว่ามิฉะนั้นแล้วหากพวกเราลงนามกันเรียบแล้วแล้วก็เกิดไปขัดเรื่องของข้อกำหนดกฎหมายเข้านั้นก็พอๆกับว่า

คำสัญญาขายฝากเสียเปล่า ไปในทันทีทันใด ซึ่งคำว่า เสียเปล่านั้นก็หมายถึงว่าไม่อาจจะบังคับกันได้โดยชอบด้วยกฎหมายนั่นเอง ดังเช่นว่า ในเรื่องของแบบข้อตกลงขายฝากนั้น หากเป็นในกรณีขายฝากอสังหาริมทรัพย์นั้นก็จำเป็นจะต้องมรการทำเป็นหนังสือและก็จำเป็นต้องไปขึ้นทะเบียนต่อบุคลากรเจ้าหน้าที่ หรือหากว่าเป็นการขายฝากสังหาริสมบัติพัสถานที่ราคาแพงตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไปนั้น

เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปจดทะเบียนต่อบุคลากรเจ้าหน้าที่เหมือนกับแนวทางการขายฝากอสังหาริมทรัพย์ แต่ทว่าพวกเรานั้นจะต้องมีแนวทางการทำเป็นหนังสือสัญญาขายฝากกันขึ้นมาด้วยถึงจะฟ้องศาลบังคับกันได้ และยังรวมไปถึงในเรื่องที่มีการตกลงกันว่าจะไถ่ได้ภายในระยะเท่านี้แต่ว่าพอเพียงถึงช่วงเวลานั้น อีกทั้งผู้ขายฝาก

และก็คนรับซื้อฝากบางครั้งอาจจะตกลงกันขยายระยะต่อไปอีกก็ได้ ซึ่งการขยายระยะเวลาไถ่นั้นแน่นอนว่าตามกฎหมาย หากว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์จะรวมช่วงเวลาไถ่ทั้งปวงแล้วเกิน 10 ปีไม่ได้ ส่วนถ้าหากเป็นสังหาริมทรัพย์เมื่อรวมระยะเวลาทั้งหมดและจะเกิน 3 ปี

มิได้ ถึงถ้าว่าเกินระยะเวลาที่ได้กล่าวไปนั้นก็ให้น้อยลงมาตามที่กฎหมายระบุ ส่วนช่วงเวลาที่เกินก็จะประยุกต์ใช้บังคับมิได้ถือว่าเสียเปล่า แบบอย่างมานี้ถ้ามีเรื่องใดแปลกผิดแผกแตกต่างไปนั้นนับว่าเป็น คำสัญญาขายฝากเสียเปล่า

ทำ คำสัญญาจำนำ ไม่ดี มีสิทธิ์ปวดศรีษะได้ สำหรับไม่ว่าใครก็ตามที่กำลังคิดจะรับจำนองอสังหาริมทรัพย์ใดก็ตาม หรือคนที่คิดจะจำนำอสังหาริมทรัพย์ขอบทรัพย์สมบัติของตนเองนั้นจึงควรข้อมูลเบื้องต้นของการตกลงจำนองแล้วก็การบังคับจำนำเสียก่อน ทั้งนี้ก็เป็นการปกป้องไม่ให้เราทำผิดข้อแม้ของกฎหมายจนถึงไม่สามารถฟ้องร้องคดีบังคับคดีไก้เมื่อมีการไม่ถูกข้อตกลงกันขึ้นมาจริงๆ

ซึ่งแน่นอนว่าหลายท่านนั้นบางทีก็อาจจะรู้สึกว่าการจำนำสามารถจำนำได้แต่เพียงที่ดินหรือบ้านเท่านั้น นอกเหนือจากนี้บางทีอาจจะยังเข้าใจผิดอยู่ว่า การจำนองนั้นสามารถจำนองได้เพียงแต่ครั้งเดียว ซึ่งจริงๆแล้วนั้นการจำนองเป็นการเอาทรัพย์สินของเราตราไว้เป็นประกันเพื่อการใช้หนี้โดยที่พวกเราไม่ต้องส่งมอบสมบัติพัสถานนั้นให้

ฉะนั้นพวกห้องแถวหรือแฟลตห้องชุดก็สามารถจำนำได้ ซึ่งอสังหาริมทรัพย์ที่พวกเราจะนำมาจำนองนั้นกรรมสิทธิ์ควรเป็นของเรา หรือถ้าเกิดเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมพวกเราก็สามารถที่จะจำนองได้เหมือนกัน เพียงแต่จะสามารถบังคับได้เพียงแค่ส่วนที่เรามีสิทธิแค่นั้น ซึ่งจะไม่ไปกระทบกับสิทธิของบุคคลอื่น ยิ่งไปกว่านี้พวกเราสามารถที่จะจำนำเพื่อประกันหนี้ของตัวเราเองก็ได้หรือประกันหนี้สินให้กับบุคคลอื่นก็ได้เช่นกัน

เพียงแต่ แบบของคำสัญญาจำนองท่วม นั้นจำเป็นที่จะต้องทำเป็นหนังสือและก็ไปลงทะเบียนกับพนักงานงานเจ้าหน้าที่เพียงแค่นั้นถึงจะถูกกฎหมาย ทั้งเนื้อหาใน แบบของคำสัญญาจำนอง นั้นก็ควรต้องกำหนดจุดหมายของการจำนอง รูปแบบของหนี้ที่จำนอง จำนวนเงินที่จะยอมสารภาพ รวมทั้งระยะเวลาในการก่อหนี้สินที่เราได้จำนำนั้น โดยผู้จำนองนั้นจะพรับไม่ถูกเพียงแต่หนี้ที่กำหนดไว้ภายใน แบบของข้อตกลงจำนอง เพียงแค่นั้น

จะเขียน ข้อตกลงจำนำ เองก็ได้ไม่มีข้อห้าม

ในเรื่องเกี่ยวกับการจำนำนั้นแน่นอนว่เราย่อมจำนำได้แค่เพียงทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์เพียงแค่นั้น รวมถึงสังหาริมทรัพย์ประเภทพิเศษพื้นที่กฎหมายกำหนดให้ถือว่าใช้กฎระเบียบเดียวกับอสังหาริมทรัพย์ด้วย แล้วก็จากที่พวกเรามองเห็นจำนวนมากนั้นเราก็จะเห็นว่าที่ดินถูกเอามาจำนองมาที่สุด ซึ่งโดยธรรมดาถ้าหากว่าเป็นการจำนองกับทางสถาบันการเงินหรือทางแบงค์นั้นตัว หนังสือสัญญาจำนองที่ดิน นั้นทางธนาคารก็จะเป็นผู้จัดการให้

แม้กระนั้นถ้าเกิดเป็นในเรื่องที่บุคคลปกติลงนามกันเองนั้นเราก็สามารถที่จะเขียนขึ้นเองก็ได้ เนื่องจากว่าไม่ใช่เรื่องยากอะไรเพียงแค่เราจำเป็นจะต้องรู้เงื่อนไขโดยชอบด้วยกฎหมายด้วย หรือถ้าหากใครก็ช่างที่มีการจำนองที่ดินกันในหนี้สินที่มีจำนวนสูงนั้นก็บางทีอาจจะว่าจ้างให้สำนักข้อบังคับเป็นผู้ร่าง หนังสือสัญญาจำนองที่ดิน ก็ได้

ซึ่ง หนังสือสัญญาจำนำที่ดิน นั้นก็อิงรูปแบบคล้ายกับหนังสือสัญญาค้ำประกันเลย รวมถึงผู้ใดที่จะเป็นผู้รับจำนองนั้นก็จำต้องตรวจทานเพราะชื่อผู้มีกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินนั้นเป็นชื่อเดียวกับผู้จำนองใช่หรือไม่ เนื่องจากว่าข้อตกลงจำนำนั้นจะมีได้ก็เมื่อผู้ครอบครองผู้มีสิทธิในที่ดินเป็นผู้จำนองเท่านั้น นอกจากนั้นแล้วสิ่งที่จำเป็นเอามากๆเลยก็คือ

เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการไปจดทะเบียนที่ที่ทำการที่ดิน ด้วยเหตุผลดังกล่าวถ้าหากคนใดกล่าวว่าไม่ต้องไปลงบัญชีหรอกนั้นพวกเราก็ไม่ต้องไปเชื่อโดยเด็ดขาด ซึ่งเมื่อพวกเราทราบถึงที่ตรงนี้แล้วพวกเราก็จะเห็นว่าข้อตกลงจำนองนั้นก็ไม่ได้ยากเกินกว่าที่จะเขียนเองเลยเพียงแค่ต้องเรียนในข้อจำกัดเพิ่มเติมอีกเพียงแค่นั้น

สิ่งที่จำเป็นต้องรู้ก่อนรับจำนำที่ดินรับจำนองที่ดินเป็นการทำธุรกรรมที่น่าดึงดูดเนื่องจากว่าผู้รับจำนองบ้านที่ดินจะยังไม่ได้รับสิทธ์ในที่ดินหรือทรัพย์สินเมื่อมีการทำสัญญา เนื่องจากผู้จำนองไม่ต้องมีการส่งมอบที่ดินให้แก่ผู้รับจำนองที่ดิน

แต่เป็นการนำอสังหาริมทรัพย์หรือที่ดินมาใช้เป็นหลักประกันในการจ่ายและชำระหนี้นั่นเองเพื่อไม่ให้จำต้องสูญเสียผลประโยชน์จากการจำนำ และไม่ให้เกิดการเสี่ยงสำหรับเพื่อการนำอสังหาริมทรัพทย์ที่มีมูลค่าสูงอย่างที่ดินมาใช้เป็นหลักประกันโดยการจำนำ

ผู้จำนองและก็ผู้ที่รับจำนองบ้านที่ดิน จำเป็นจะต้องเรียนรู้และรู้ถึงต้นเหตุต่างๆของการจำนำให้ละเอียดละเอียดลออ ซึ่งสิ่งที่จะต้องรู้ก่อนการกระทำจำนำมีดังนี้สถานที่ทำสัญญา : ควรมีการทำความตกลงเฉพาะหน้าข้าราชการที่สำนักงานที่ดิน โดยข้อตกลงจึงควรถูกสำรวจจากเจ้าหน้าที่ก่อน ซึ่งตามกฏหมายได้มีการระบุว่าการลงนามจำเป็นจะต้องกำหนดรายละเอียดให้ครบและก็ถูกต้อง

ผ่านการตกลงและก็รับทราบร่วมกันของคู่สัญญากรรมสิทธิ์ : เจ้าของจะยังเป็นของผู้จำนองอยู่รวมทั้งผู้รับจำนองจะยังไม่มีสิทธิ์ในที่ดินมื่อลงนามอัตราค่าตอบแทน : ค่าจ้างของการรับจำนองบ้านที่ดินคือ “ดอก” โดยผู้จำนองแล้วก็ผู้รับจำนำจะต้องตกลงกันในกฎระเบียบเป็นจำเป็นต้องไม่เกิน 15% ต่อปี หรือ ไม่เกิน 1.25% ต่อเดือน

การยึดทรัพย์สมบัติ :ถ้าไม่ทันเวลาสัญญาแล้วผู้จำนองยังไม่สามารถไถ่ถอนอสังหาริมทรัพย์ได้ โดยผู้รับจำนองจึงควรฟ้องคดีต่อศาลเพื่อขอยึดทรัพย์และนำสินทรัพย์ไปขายทอดตลาดในลำดับต่อไปการถอนถอน : ตามที่ตกลงและก็กำหนดเอาไว้ในคำสัญญากู้ยืม โดยจะไม่มีอายุของคำสัญญาแม้กระนั้นจะมีการเจาะจงเวลาชำระหนี้แล้วก็ดอกถ้ามีการไม่ถูกจ่ายนั่นเอง

โดยภายในสัญญาจำนำต้องมีการกำหนดรายละเอียดอย่างเห็นได้ชัดถึงจำนวนเงินกู้ที่ผู้จำนองต้องการจะทำกู้กับผู้ที่รับจำนองที่ดิน รวมทั้งควรมีการระบุรายละเอียดของที่ดินที่นำมาจำนำ เพื่อการตกลงเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งสิ่งที่ควรมีการกำหนดไว้ในคำสัญญาคือรายละเอียดต่างๆของที่ดินวันที่ลงนามชื่อของผู้กระทำคำสัญญาอีกทั้งผู้จำนองแล้วก็คนที่รับจำนองที่ดินข้อตกลง

จำนวนเงินกู้ อัตราดอกเบี้ย ตั้งเวลาจ่ายหนี้รวมทั้งจำนวนครั้งที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยหากไม่อาจจะชำระได้ตรงตรงเวลาชื่อผู้ถือโฉนดที่ดินหรือพยานผู้ถือหลักทรัพย์การเซ็นสัญญา ของทั้งผู้จำนองรวมทั้งผู้ที่รับจำนำบ้านที่ดิน พยานฝ่ายละ 1 คน เจ้าหน้าที่ที่ที่ทำการที่ดิน นักเขียนสัญญา และก็ผู้ตรวจสัญญา

หนังสือสัญญาขายฝากที่ดิน

เขียนเอาเองก็ได้สำหรับไม่ว่าใครก็ตามที่คิดจะกำลังขายฝากที่ดินหรือรับซื้อฝากที่ดินนั้นก็เป็นธรรมดาว่าบางทีอาจจะกำลังเป็นห่วงในหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคา เรื่องของ หนังสือสัญญาขายฝากที่ดิน หรือเรื่องของมุมมองโดยชอบด้วยกฎหมายต่างๆที่อาจทำให้ฝ่ายตนเองนั้นเสียเปรียบ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วในเรื่องของ หนังสือสัญญาขายฝากที่ดินนั้น

พวกเราไม่จำเป็นที่ตะจำต้องกังวลใจอะไรมากมายเพียงแค่พวกเรารู้วิธีการดังที่กฎหมายได้กำหนดเอาไว้เท่านั้นก็พอเพียง หรือถ้าเกิดคนใดกันจะไปซื้อข้อตกลงที่เป็นแบบสำเร็จรูปก็ได้ แต่ว่าทั้งนี้ก็ควรดูกรยละเอียดให้ดีด้วยและก็ข้อสัญญาไหนที่เราปรารถนาเพิ่มเติมอีกเข้าไปก็สามารถทำเป็นเช่นกัน ส่วนถ้าหากว่าคนไหนกันนั้นต้องการที่จะเขียนขึ้นมาเองก็สามารถทำได้

เพราะว่าแบบของ หนังสือสัญญาขายฝากที่ดิน นั้นไม่ใช่เรื่องยากเพียงแต่มี วันที่รวมทั้งสถานที่ทำความตกลงยขายฝาก รายละเอียดของคู่สัญญา เนื้อหาของที่ดินอยากได้ที่จะขายฝาก จำนวนเงินที่มีขายฝาก กำหนดช่วงเวลาสำหรับการไถ่ ซึ่งถ้าเกิดเป็นที่ดินนั้นห้ามเกิน 10 ปี

จำนวนเงินที่จะมาไถ่คืน ซึ่งถ้าเกิดไม่ได้กำหนดไว้ต้องไถ่ในราคาที่ขายฝาก แล้วก็หากต้องการที่จะให้คนอื่นๆสามารถมาไถ่แทนได้นั้นก็ให้ระบุขื่อของบุคคลนั้นไว้ด้วย รวมทั้งถ้าหากปรารถนาคุ้มครองไม่ให้คนรับซื้อฝากนำที่ดินไปขายนั้นก็สามารถกำหนดได้ในสัญญาด้วย ลายเซ็นคู่สัญญา และก็ผู้เห็นเหตุการณ์ แน่ๆว่าเพียงแต่พวกเรามีรายละเอียดเท่านี้นั้นก็นับว่าเป็น หนังสือสัญญาขายฝากที่ดิน ที่บริบูรณ์สามารถทำให้มีผลทางกฎหมายแล้ว

จุดเด่นของการรับจำนำที่ดินการจำนองมีจุดเด่นอีกทั้งต่อผู้จำนองรวมทั้งผู้รับจำนองที่ดิน

ดังต่อไปนี้เป็นการทำธุรกรรมที่ถูกตามกฏหมายและปลอดภัยด้วยเหตุว่ามีการขึ้นทะเบียนซึ่งๆหน้าข้าราชการที่สำนักงานที่ดินค่าธรรมเนียมสำหรับการลงนามที่สำนักงานที่ดินไม่สูง โน่นเป็นเพียงแต่ 1% ของวงเงินจำนำแค่นั้นผู้จำนองจะค่อยข้างดีกว่าจากการจำนำใน

ตอนนั้นเพราะเหตุว่าผู้รับจำนำจะไม่สามารถยึดทรัพย์สินได้เลยในทันทีแนวทางเลือกผู้รับจำนองบ้านที่ดินที่ใช่และก็ไม่เป็นอันตรายเมื่อถึงขั้นตอนสำหรับเพื่อการเลือกพิจารณาถึงบริษัทหรือหน่วยงานที่รับจำนองที่ดิน ผู้จำนองจึงควรไต่ตรองให้ถี่ถ้วยโดยนึกถึงความปลอดภัยและความเหมาะสมเป็นหลัก โดยปัจจุบันสามารถจำนองที่ดินได้ทั้งยังกับแบงค์และก็บริษัทเอกชนต่างๆซึ่งสิ่งที่จะสามารถใช้เพื่อประกอบกิจการตรึกตรองเป็นความน่าไว้ใจของหน่วยงาน ธนาคาร

หรือบริษัทที่รับจำนำที่ดินจำนวนของวงเงินที่อนุมัติให้กู้ระยะเวลาผ่อนส่งและอัตราค่าดอกเบี้ยเมื่อพิจารณาถึงสิ่งเหล่านี้แล้ว สิ่งหนึ่งที่จำเป็นสำหรับในการจะจำนำที่ดินโน่นเป็นการอ่านข้อตกลงให้ถี่ถ้วนเพื่อศึกษาเล่าเรียนข้อแม้และไม่ให้กำเนิดข้อบกพร่องในอนาคต

ความรู้เรื่องการจำนำผู้เขียนได้รับมอบให้เขียนเรื่องการจำนองเพื่อเผยแพร่ความรู้แก่พลเมืองทั่วๆไป

ให้รู้เรื่องได้อย่างไม่ยากเย็นว่าการจำนองเป็นยังไง มีผลเช่นไรต่าข้างมีสิทธิแล้วก็หน้าที่ยังไงรวมทั้งประการในที่สุดการจำนองจะระงับหรือสิ้นสุดด้วยแนวทางใดเพราะฉะนั้นคนเขียนก็เลยขอกล่าวเฉพาะการจำนองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งพสกนิกรควรรู้ในบางลักษณะหนึ่งสำหรับการเขียนคนเขียนขอทำเป็นคำถามคำตอบเพื่อการเข้าใจง่ายๆดังต่อไปนี้ถาม

การจำนำเป็นอย่างไรตอบ การจำนองก็คือการที่บุคคลหนึ่งนำทรัพย์สินไปเป็นประกันหนี้สินขอตัวเองหรือของผู้อื่นต่อเจ้าหนี้ซึ่งข้อบังคับเรียกว่า ผู้จำนองเอาเงินทองไปยี่ห้อไว้กับผู้รับจำนองถาม การจำนองจึงควรเอาสินทรัพย์ไปมอบให้ไว้กับผู้รับจำนองหรือไม่ตอบ ผู้จำนองไม่ต้องส่งทรัพย์สินให้ไว้กับผู้รับจำนำ ผู้จำนองที่เป็นเจ้าของเงินที่นำไปจำนอง

เพียงแต่นำไปจดทะเบียนต่อพนักงานที่ดินแค่นั้น และเมื่อจำนำแล้วผู้รับจำนำซึ่งเป็นเจ้าของสินทรัพย์ยังคงมีสิทธิใช้สอยหรือทำกินในเงินทองต่อไปอย่างที่เคยถาม การจำนำมีผลดีต่อเจ้าหนี้อย่างไรตอบ เจ้าหนี้ที่ได้รับจำนองไว้มีสิทธิพิเศษที่กำลังจะได้รับจ่ายหนี้จากเงินที่ได้รับจำนองไว้ ก่อนเจ้าหนี้ที่มิได้รับจำนำ ซึ่งข้อบังคับเรียกว่า เจ้าหนี้สามัญโดยสิทธินี้ติดไปพร้อมกับตัวทรัพย์สมบัติที่จำนองตลอดไป

ถึงทรัพย์สินจะได้มีการโอนกรรมสิทธิไปยังบุคคลอื่นและก็ตาม เจ้าหนี้ที่ได้รับจำนองไว้ก็ยังมีสิทธิสิทธิดีมากกว่าเจ้าหนี้สามัญหมายถึงมีสิทธิได้รับจ่ายหนี้ก่อนนั่นเองถาม มีเงินทองใดบ้างที่ข้อบังคับอนุญาตให้นำมาจำนำได้ตอบ ข้อบังคับอนุญาตให้นำอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภททุกหมวดหมู่มาจำนองได้บางคนบางทีอาจสงสัยว่า อสังหาริมทรัพย์คืออะไร

อสังหาริมทรัพย์คือที่ดินกับทรัพย์สมบัติอันติดอยุ่กับที่ดินหรือประกอบเป็นอันเดียวกับที่ดิน อย่างเช่น ตึกแถวหรือบ้านซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินมีลักษณะเป็นการถาวรกล่าว คือเป็นทรัพย์ซึ่งเคลื่อนมิได้นั่นเอง ซึ่งโดยธรรมดาก็เป็นการจำนำที่ดินรวมทั้งห้องแถว หรือ โรงงาน หรือบ้านทรัพย์อื่นๆนอกจากนั้นมักจะไม่นิยมที่จะเอามาจำนำ อาจเป็นไปได้ว่าสินทรัพย์อื่น

นอกเหนือจากนี้ชอบไม่นิยมที่จะนำมาจำนำ บางทีอาจเป็นไปได้ว่าทรัพย์อื่น อาจมีการบุบสลายหรือสูญหายได้ เจ้าหนี้ก็เลยไม่ค่อยนิยมที่จะรับจำนองถาม มีข้อละเว้นใหนำสังหาริมทรัพย์แล้วทรัพย์สินซึ่งเคลื่อนได้มาจำนำบ้างหรือไม่ตอบ กฎหมายอนุญาตให้นำสังหาริมทรัพย์บางสิ่งมาจำนองได้แต่ว่าสังหาริมทรัพย์นั้นควรจะมีการเขียนทะเบียนไว้แล้ว คือ

1) เรือกำปั่น หรือเรือมีระวางตั้งแต่หกตันขึ้นไป เรือกลไฟ หรือเรือยนต์มีระวางตั้งแต่ห้าพันตันขึ้นไป

2) แพ ซึ่งน่าจะจำต้องซึ่งก็คือแพที่มีการปลูกบ้านแพ ซึ่งหยุดประจำอยู่ ณ ที่แห่งใดอันดับแรก น่าจะไม่หมายความถึงแพซึ่งเป็นซุง หรือแพไม้ไผ่ ซึ่งลากจูงไปตามแม่น้ำลำคลอง

3) ***พาหนะ ตัวอย่างเช่น ช้าง ม้า วัว ควาย

4) สังหาริมทรัพย์อื่นๆซึ่งกฎหมายบัญญัติไว้ให้ขึ้นทะเบียนเฉพาะการยกตัวอย่างเช่น เครื่องจักร หรือทรัพย์สินอื่นๆซึ่งกฎหมายอนุญาตให้มีการขึ้นทะเบียนเป็นการเฉพาะรายถาม ทำเช่นไรจึงจะนับได้ว่าเป็นข้อตกลงจำนำที่บริบูรณ์ตอบ ต้องเข้าเกณฑ์มาตรฐานตั้งแต่นี้ต่อไปจึงจะนับว่าเป็นสัญญาจำนองที่สมบูรณ์

(1) จำเป็นต้องกำหนดให้เป็นการแจ่มกระจ่างว่าจะจำนำสมบัติพัสถานสิ่งใด เป็นต้นว่า จำนำที่ดินต้องกำหนดให้ชัดว่า ที่ดินโฉนดที่เท่าไร ที่ดินตั้งอยู่ไหน ฯลฯ

(2) ผู้ที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินในขณะจำนองแค่นั้นจึงจำนองได้ จะไปเอาทรัพย์สมบัติของบุคคลอื่นมาจำนองมิได้

(3) คนใดกันแน่มีสิทธิในสินทรัพย์เท่าใดก็มีสิทธิจำนำเพียงแค่นั้น ดังเช่นว่าเป็นเจ้าของร่วมในที่ดินกับบุคคลอื่น ก็จำนำได้เท่าที่ตนเองมีสิทธิเท่านั้น

(4) การจำนำถือได้ว่าเป็นการรับประกันด้วยทรัพย์ ด้วยเหตุดังกล่าวก็เลยจำเป็นต้องอยู่ในข้อแม้ที่ว่า

4.1 ควรมีหนี้สินอันบริบูรณ์ ก็เลยจะจำนำเป็นประกันได้

4.2 หนี้สินในอนาคตหรือหนี้สินมีเงื่อนไข บางครั้งก็อาจจะประกันไว้เพื่อหนี้ที่อาจเกิดขึ้นจริงในอนาคตก็ได้

4.3 การรับรองหนี้ทำโดยสำคัญผิดก็ดี หรือทำโดยผู้ไร้ความสามารถดีแล้ว แม้ผู้จำนองรู้เหตุการณ์ดังกล่าวแล้วยังยอมรับเข้ากระทำการรับรอง ก็นับว่าการค้ำประกันสมบูรณ์ผูกพันผู้จำนอง

(5) ข้อตกลงจำนองจะต้องทำเป็นหนังสือรวมทั้งลงบัญชีต่อเจ้

มาตรา ๗๐๒ อันว่าจำนองนั้น

เป็นข้อตกลงซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่าผู้จำนองเอาทรัพย์สินยี่ห้อไว้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้รับจำนอง เป็นประกันการชำระหนี้ โดยไม่มอบเงินทองนั้นให้แก่ผู้รับจำนำผู้รับจำนำชอบที่จะได้รับใช้หนี้จากทรัพย์สินที่จำนำก่อนเจ้าหนี้สามัญไม่พักจำเป็นต้องพิจารณาว่าเจ้าของในเงินจะได้โอนไปยังบุคคลภายนอกแล้วหรือหาไม่มาตรา ๗๐๓

อันอสังหาริมทรัพย์นั้นอาจจำนำได้ไม่ว่าจำพวกใดๆก็ตามสังหาริมทรัพย์อันจะกล่าวตั้งแต่นี้ต่อไปก็บางทีอาจจำนองได้ดุจกัน ถ้าว่าได้จดทะเบียนไว้แล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย คือ(๑) เรือมีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป(๒) แพ(๓) สัตว์พาหนะ(๔) สังหาริมทรัพย์อื่นๆซึ่งกฎหมายถ้ากำหนดไว้ให้จดทะเบียนเฉพาะการมาตรา ๗๐๔ สัญญาจำนองจำต้องกำหนดเงินทองซึ่งจำนองมาตรา ๗๐๕ การจำนำทรัพย์สินนั้น นอกเหนือจากผู้ที่เป็นเจ้าของในตอนนั้นแล้ว

ท่านว่าคนไหนกันแน่อื่นจะจำนองหาได้ไม่มาตรา ๗๐๖ บุคคลมีสิทธิในเงินแต่ด้านในบังคับข้อแม้อย่างใดจะจำนำสินทรัพย์นั้นได้แม้กระนั้นด้านในบังคับข้อตกลงเช่นนั้นมาตรา ๗๐๗ บทบัญญัติมาตรา ๖๘๑ กล่าวถึงค้ำประกันนั้น ท่านให้ใช้ได้สำหรับในการจำนอง ผ่อนผันตามควรมาตรา ๗๐๘ ข้อตกลงจำนำนั้นควรจะมีจำนวนเงินกำหนดไว้เป็นเรือนเงินไทยเป็นปริมาณแน่ตรงตัว

หรือปริมาณลำดับสูงสุดที่ได้เอาเงินจำนองนั้นยี่ห้อไว้เป็นประกันมาตรา ๗๐๙ บุคคลคนหนึ่งจะจำนองเงินของตัวเองไว้เพื่อรับรองหนี้สินอันบุคคลอื่นจำเป็นจะต้องชำระ ก็ให้ทำได้มาตรา ๗๑๐ เงินทองหลายสิ่งมีเจ้าของคนเดียวหรือคนจำนวนไม่น้อยจะจำนองเพื่อรับรองการใช้หนี้แม้กระนั้นรายหนึ่งรายเดียว ท่านก็ให้ทำได้แล้วก็ในการนี้คู่สัญญาจะตกลงกันเช่นตั้งแต่นี้ต่อไปก็ได้

เป็นว่า(๑) ให้ผู้รับจำนองใช้สิทธิบังคับเอาแก่สินทรัพย์ซึ่งจำนองตามลำดับอันกำหนดไว้(๒) ให้ถือเอาทรัพย์สินแต่ละสิ่งเป็นประกันหนี้เฉพาะแต่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใดที่ระบุไว้มาตรา ๗๑๑ การที่จะตกลงกันไว้เสียแต่ก่อนเวลาหนี้ถึงเวลาจ่ายเป็นข้อความอย่างใดอย่างหนึ่งว่า ถ้าไม่จ่ายและชำระหนี้ ให้ผู้รับจำนำเข้ามาเป็นเจ้าของเงินทองซึ่งจำนำ

หรือว่าให้จัดการแก่ทรัพย์สินนั้นเป็นประการอื่นอย่างใดเว้นแต่ตามบทบัญญัติทั้งหลายแหล่เกี่ยวกับการบังคับจำนองนั้นไซร้ ข้อตกลงแบบนั้นท่านว่าไม่สมบูรณ์มาตรา ๗๑๒ ถึงแม้ถึงว่ามีข้อสัญญาเป็นอย่างอื่นก็ตาม เงินซึ่งจำนองไว้แก่บุคคลคนหนึ่งนั้น ท่านว่าจะเอาไปจำนำแก่บุคคลอีกคนหนึ่งในระหว่างในเวลาที่สัญญาก่อนยังมีอายุอยู่ก็ได้มาตรา ๗๑๓

ถ้ามิได้ตกลงกันไว้เป็นอันอื่นในสัญญาจำนำ ท่านว่าผู้จำนองจะจ่ายหนี้ล้างจำนำเป็นงวดๆก็ได้มาตรา ๗๑๔ อันคำสัญญาจำนองนั้น ท่านว่าจำเป็นต้องทำเป็นหนังสือรวมทั้งขึ้นทะเบียนต่อบุคลากรข้าราชการมาตรา ๗๑๔/๑ บรรดาข้อตกลงเกี่ยวกับการจำนองที่ไม่เหมือนกันกับมาตรา ๗๒๘ มาตรา ๗๒๙ แล้วก็มาตรา ๗๓๕ เป็นโมฆะคำตัดสินศาลฎีกาที่ 8905/2551

โจทก์ไม่อาจจะสืบให้สมตามประเด็นข้อโต้แย้งที่ว่า จำเลยกู้ยืมโจทก์ไปใช่หรือไม่ เชลยก็เลยไม่ต้องรับสารภาพตามคำสัญญากู้ยืมเงิน และจำเลยไม่ต้องยอมรับผิดตามข้อตกลงจำนองอีกด้วย เนื่องจากตาม ป.พ.พ.มาตรา 702 ข้อกำหนดว่า “อันว่าจำนำนั้น

คือข้อตกลงซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่า ผู้จำนอง เอาเงินตราไว้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่า ผู้รับจำนำ เป็นประกันการจ่ายหนี้โดยไม่ส่งเงินนั้นให้แก่ผู้รับจำนำ” เมื่อการจำนองมิได้เป็นการรับรองการใช้หนี้กู้ยืมเงิน เชลยก็เลยไม่ต้องรับสารภาพตามสัญญาจำนำ เหตุเพราะจำนองเป็นหนี้วัสดุอุปกรณ์ของหนี้สินประธานอันเป็นหนี้กู้เงิน เมื่อจำเลยไม่ต้องรับผิดตามหนี้ประธาน

จำเลยก็หาจำต้องรับผิดในหนี้สินอุปกรณ์ต่อโจทก์ด้วยไม่หนี้ประธานในกรณีที่จำเลยขึ้นทะเบียนจำนำนั้นติดหนี้ติดสินการรับรองดอกเบี้ยเงิน กู้ยืม เมื่อหนี้ประธานยังมิได้มีระบุปริมาณที่แน่ๆ ศาลย่อมไม่อาจตัดสินให้เชลยยอมรับผิดในหนี้สินจำนำอันเป็นหนี้สินอุปกรณ์ได้เนื่อง จากยังไม่ปรากฏหนี้สินอันเป็นที่แจ่มกระจ่างว่ามีจำนวนติด

กลับสู่หน้าหลัก