The Bund (1983) ภาคไทย

The Bund (1983) ภาคไทย

The Bund (1983) ภาคไทย

The Bund (1983) ภาคไทย ซีรีส์หัวข้อนี้มีฉากขึ้นที่ประเทศจีนในตอนปี คริสต์ศักราช 1920 ฮุย Man-Keung เป็นมหาวิทยาลัย Yenchingสำเร็จการศึกษาที่ปฏิบัติหน้าที่สามปีในตารางในการร่วมในสี่อาจขยับเขยื้อน เขาตกลงใจที่จะเริ่มต้นใหม่ในเซี่ยงไฮ้ที่ซึ่งเขาได้พบแล้วก็เป็นเพื่อนกับ Ting Lik พ่อค้าผลไม้ The Bund (1983) พากษ์ไทย เขาเชื้อเชิญติงมาเป็นคู่ขาของเขาภายหลังยึดตำแหน่งสำคัญในแก๊งค์เล็กๆนอกเหนือจากนั้น เขายังผูกมิตรที่ดีกับ Fung King-yiu มหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งรวมทั้งหัวหน้าแก๊ง ภายหลังจากช่วยชีวิต Ching-ching ลูกสาวของ Fung ผู้ซึ่งโดนจับเป็นตัวประกัน ฟุงอยากให้ฮุยดำเนินงานให้ แม้กระนั้นฮุ่ยปฏิเสธ ชิงชิงตกหลุมรักฮุ่ยหลังจากที่ Ting ฆ่าคู่ต่อสู้ในข้อพิพาทส่วนตัวเรื่องเพศหญิง กลุ่มอื่นๆก็โจมตี Hui และก็ Ting และทำลายแก๊งค์เล็กๆของพวกเขา แล้วหลังจากนั้นฮุยและติงก็เข้าร่วมกลุ่มใหญ่ของฟุงเพื่อคุ้มครองป้องกัน ถัดมา Hui พบว่า Fung กำลังร่วมมือกับสายลับจากBlack Dragon Societyฝั่งขวาของญี่ปุ่นเพื่อทำลายสถานที่เรียน Ching-mou

ซึ่งเป็นสถานที่เรียนสอนศิลป์การต่อสู้ของจีนที่เอาจริงเอาจังที่จะคุ้มครองปกป้องเมืองจีนจากการรุกรานจากต่างประเทศ เขาเข้าสู่ภาวการณ์ที่พะอืดพะอมว่าจะเข้าข้างสถานที่เรียน Ching-mou หรือหันหลังให้กับ Fung สุดท้ายฮุยก็ตัดสินใจที่สามารถจะช่วยโรงเรียนชิงโหมว แล้วก็เขาก็ฆ่าสายลับญี่ปุ่น ยามากุจิ ค้างโอริโกะ ในการดวลปืน ด้วยความโกรธเมื่อรู้ว่าการทรยศของฮุย ฟังจึงส่งคนของเขาไปล่ารวมทั้งฆ่าฮุ่ย เหตุเพราะมิตรภาพของพวกเขา แย้งจึงแอบช่วยฮุยหลบซ่อนจากเซี่ยงไฮ้

ฮุยแกล้งตายเพื่อหลบเลี่ยงคนของฟุงรวมทั้งตั้งถิ่นฐานในประเทศฮ่องกง ที่ซึ่งเขาสมรสกับโซ หว่องไท เริ่มต้นชีวิตใหม่กับครอบครัวของคุณ แล้วก็เปิดร้านอาหารเล็กๆในเวลาเดียวกัน Ching-ching ที่เซี่ยงไฮ้ไม่สามารถสารภาพข่าวสารการตายของ Hui ดังนั้นคุณจึงไปประเทศฮ่องกงเมื่อได้ยินข่าวลือว่า Hui ยังมีชีวิตอยู่ที่นั่น คุณเจอฮุ่ยตรงนั้นแต่ว่าไม่ยอมรับที่จะเชื่อเขาเมื่อเขาพูดว่าเขาสมรสแล้ว

แล้วฮุ่ยก็พาคุณกลับไปอยู่ที่บ้านเพื่อแสดงให้ครอบครัวเห็น โดยที่พวกเขาไม่ทราบ คนของ Fung ได้แอบติดตามพวกเขาแล้วก็พวกเขาก็ฆ่าครอบครัวของ Hui ในขณะที่เขาไม่อยู่ ภายหลังจากทราบดีว่าคนของ Fung ฆ่าครอบครัวของเขา Hui ก็สาบานว่าจะล้างแค้น Fung และกลับไปเซี่ยงไฮ้เพื่อแก้เผ็ดฮุ่ยเป็นที่ปรึกษาให้กับ นิป จนถึง-วงษ์ คู่แข่งขันสำคัญของฟุง ผ่านการประลองยุทธ์ที่บรรลุผลสำเร็จมากมายก่ายกอง Hui ช่วย Nip

สำหรับในการทำให้ Fung หมดอำนาจทางด้านการเงินและการบ้านการเมือง เขายังบอก Ching-ching ว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้ ระหว่างที่ฮุยไม่อยู่ ติงก็เริ่มขึ้นศาลชิงชิง ภายหลังที่ท้วงติงได้รับบาดเจ็บรุนแรงคราวหนึ่ง ชิงชิงก็ตกลงสมรสกับเขา ฮุ่ยประสบเจอกับปัญหาทางอารมณ์เพราะเหตุว่าสูญเสียครอบครัว และภายหลังจากมีความเห็นว่าอดีตคู่รักของเขากำลังจะแต่งงานกับเพื่อนเกลอของเขา สภาวะไม่มีชีวิตชีวาของเขาจุดประกายความโกรธในตัวเขาและเพิ่มความกระหายหิวสำหรับในการล้างแค้น ฮุยอยากได้ฆ่าฟุงและขอให้ท้วงติงช่วย Ting จัดเตรียมพวกเขาสำหรับเกมรูเล็ตรัสเซียซึ่ง Hui ได้รับชัย

Ching-ching ไม่สามารถที่จะให้อภัย Hui ที่ฆ่าบิดาของคุณและก็คุณออกมาจากจีนไปฝรั่งเศส Hui และก็ Ting ร่วมมือกันและจัดการเพื่อตั้งขึ้นแก๊งที่มีอำนาจสูงที่สุดในแดนนรกเซี่ยงไฮ้ แต่ ฮุยมิได้พอใจเรื่องแก๊งค์เพราะเขาอยากจะตามหาชิงชิงและก็หาทางปรับแก้กับคุณ ในคืนก่อนที่เขาจะเดินทางไปฝรั่งเศส ฮุยถูกยิงที่นอกห้องอาหารโดยคนร้ายที่ไม่เคยทราบ

รวมภาพยนตร์สอนใจ ด้วยความหวังดีจากหน่วยงานรัฐ

…สู่ประชาชนจากข่าวเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศจะเผยแพร่ภาพยนตร์สั้นเพื่อ “สร้างจิตสำนึกด้านการเมือง การตระหนักถึงการไปใช้สิทธิ แล้วก็ผลต่อการพัฒนาประเทศ” แล้วก็ไม่ต้องเสียเวล่ำเวลาไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ถึงโรงภาพยนตร์ เนื่องจากว่าทางกกต. จะปล่อยคลิปให้ดูกันใน Youtube ด้วยความมุ่งหวังว่าคลิปกลุ่มนี้จะไวรัลถัดไปในโลกออนไลน์ถึงจะรู้สึกสงสัยอยู่เล็กๆว่า เป้าหมายที่กกต. ต้องการจะได้นั้นมันเป็นอย่างความคาดหวังไหม แต่แล้วพวกเราก็นึกขึ้นมาได้ว่าภาพยนตร์ที่หน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานเพื่อสังคมเคยทำขึ้นมาด้วยความห่วงใยต่อพวกเราก็มีหลายๆเรื่องนะ เราเลยหยิบยกเอาภาพยนตร์จากกลุ่มนี้มาให้ไตร่ตรองกันว่าหนังจากหน่วยงานต่างๆมีอันไหนที่น่าจำกันบ้าง

1. ภาพยนตร์สั้นชุด The Box กล่องแห่งความหวัง

โดย กกต.เปิดตัวแบบกะทันหันแม้กระนั้นก็เด่นรุนแรงจนสามารถแซงหน้าภาพยนตร์เรื่องอื่นๆที่โฆษณามาก่อนนับเป็นเวลาหลายสัปดาห์ กับเรื่องราวการเดินทางของคนกลุ่มหนึ่งที่อุตสาหะนำ ‘กล่อง’ ไปให้หญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังเจ็บป่วยรวมทั้งอาศัยอยู่บนยอดดอยสูง …รวมทั้งกล่องนั้นก็พร้อมจะมอบความมุ่งมาดให้เธอด้วยสไตล์เมโลดราม่าปลุกอารมณ์ผู้ชมแถมยังหักมุมแบบที่คนไหนกันก็ไม่คาดฝัน ทำให้คนดูแทบทุกคนเกิดความรู้สึกต้องการจะไปออกเสียงในทันใด …แต่ภาพยนตร์มิได้บอกพวกเรานะว่าการลงคะแนนเสียงคราวหน้าจะเกิดขึ้นเมื่อใด

2. ภาพยนตร์สั้น ไม่เชื่อน้ำมนต์หมอปราบผี

โดย กาชาดไทย (สภากาชาดไทย ในปัจจุบัน)ภาพยนตร์ขนาดสั้นที่ กาชาดสยาม ผลิตขึ้นและก็ออกฉายช่วงวันที่ 27 – 30 ส.ค. ปี 1927 เป้าหมายหลักของภาพยนตร์ประเด็นนี้ก็คือการรณรงค์ให้สามัญชนเลิกศรัทธาวิธีการรักษาแบบบิดามดหมอผี แล้วมารักษาลักษณะการเจ็บไข้ตามหลักทฤษฎีแพทย์อย่างแม่นยำแทนด้วยเนื้อหาที่มิได้เน้นย้ำความเพลิดเพลิน ทำให้คนไม่ค่อยจำหัวข้อนี้เท่าไรนัก ทำให้หาภาพอธิบายค่อนข้างยาก (เราหาภาพไม่เจอจริงๆครับ ขออภัย) แม้กระนั้นก็ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่สำคัญ เนื่องจากว่าเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกๆที่มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับผี ก่อนที่บ้านเราจะฮิตสร้างภาพยนตร์แนวนี้มาจนกระทั่งเดี๋ยวนี้

3. ภาพยนตร์สั้น ทางรัก (Love En Route) โดย กระทรวงวัฒนธรรม

เรื่องราวของชาวอเมริกาคนหนึ่งเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยเพื่อรักษาแผลใจ ด้วยเหตุว่าเขาได้ติดตาม Instagram ของสาวคนไทยคนหนึ่งที่ใช้ชื่อ Love En Route แล้วการเดินทางเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆจะทำให้เขากับคุณหลงเสน่ห์กันได้ไหม?เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าประเทศไทยเป็นเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวมากมายเป็นจำนวนมาก ฉะนั้นถ้าเกิดจะมีภาพยนตร์เกื้อหนุนการท่องเที่ยวขึ้นมาสักเรื่องนี่ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย แล้วก็ภาพยนตร์สั้นชุดนี้ก็เพียรพยายามนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวของไทยแบบเต็มแรงในช่วงไม่ถึง 10 นาที แถมยังมีภาพยนตร์ให้ดูกันถึง 2 ภาคเลยด้วย จะสงสัยเป็นการส่วนตัวก็แค่ว่าเพราะอะไรภาพยนตร์หัวข้อนี้ไม่ได้ได้ผลสำเร็จงานจากกระทรวงการท่องเที่ยวรวมทั้งกีฬาที่คงจะดูแลหัวข้อนี้โดยตรงกัน

4. ภาพยนตร์สั้นชุด ไทยนิยม

โดย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจัดใหญ่ ดราม่าหนัก ดาราเต็ม เอฟเฟกต์ระดับไฟกระพริบ ต้องภาพยนตร์ชุดนี้ที่มีเป้าหมายในการโปรโมต ‘ค่านิยม 12 ประการ’ แนวนโยบายของ คสช. ที่ถูกเอามาแยกย่อยเป็นภาพยนตร์สั้น 12 เรื่อง จากผู้กำกับมีชื่อเสียง 12 คน ร่วมด้วยดาราดาราที่รู้จักกันอย่าง ขวัญ-เช้าตรู่มณี เต้ย-พงศกร เวียร์-ศุกลวัตน์ มองดูมัย สวยอำนาจ เจมส์ มาร์ โดนัท-มโนนันท์ หู สวัสดิวัตน์ ฯลฯ แล้วก็เปิดให้รับชมในโรงภาพยนตร์กันฟรีๆอยู่ช่วงหนึ่งก่อนจะปล่อยให้ชมกันทาง Youtube

5. ภาพยนตร์สั้นชุด โตไปไม่ทุจริต

โดย จ.กรุงเทพฯภาพยนตร์ที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร ร่วมกับ GTH (ณ เวลานั้น) จับศิลปินอย่าง เต๋อ-ฉันทวิชช์ พีค-ดีศยา พีช-พชร เต้ย-จรินทร์พร ฯลฯ กับผู้กำกับอีก 15 คน มาทำหนังสั้น 15 เรื่อง ตามแผนการกรุงเทวดาเมืองสีขาว ‘หลักสูตรโตไปไม่โกง’ ที่ครอบคลุมคุณงามความดี 5 ประการหมายถึงความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ จิตสาธารณะ อยู่อย่างพอเพียง และความชอบธรรมในสังคมหากว่ากันตรงๆในกลุ่มทดลองที่เราชูมาทั้งปวง ภาพยนตร์ชุดนี้คงจะได้เรื่องสำราญใจสูงสุด ไม่ว่าจะในแง่บท การถ่ายทำ หรือการแสดงของนักแสดง แล้วก็ตัวภาพยนตร์แทบทุกเรื่องยังอุตสาหะบอกกล่าวเรื่องความศีลธรรมแบบแจ้งชัดแบบไม่แออัดยัดเยียดเท่าไรนัก …อ่า ส่วนตอนสุดท้ายของทุกเรื่องที่ได้ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี มาสรุปประเด็นนั้นแม้จะได้สาระอย่างมาก แม้กระนั้นพวกเราก็รู้สึกว่าต่อให้ไม่ใส่มาตัวหนังก็ค่อนข้างจะสรุปรายละเอียดตามคอนเซปท์ดีอยู่แล้วนะ

6. ภาพยนตร์สั้นชุด โครงการจิตสำนึกรักเมืองไทย

โดย กระทรวงกลาโหมถ้าหากกล่าวถึงละครทีวีที่ฉายมาอย่างนานเราคงจำเป็นต้องยกให้ ‘น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์’ ที่มีมาตั้งแต่ปี 2001 แม้กระนั้นถ้างานของภาครัฐที่จัดประกวดและฉายกันอย่างสม่ำเสมอที่สุดก็จะต้องเป็น ‘โครงงานความสำนึกรักเมืองไทย’ ที่มีกระทรวงกลาโหมเป็นแม่งาน และก็จัดมา 8 ครั้งแล้วโครงการนี้มีเป้าหมายที่เยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี แรกเริ่มไม่ได้ประกวดถ่ายหนังสั้นแค่นั้น แต่ว่าจะแข่งขันกระบวนการทำสื่อต่างๆเปลี่ยนแปลงไปตามยุค แล้วปีที่ล่วงเลยไปก็เปิดหมวดภาพยนตร์สั้น ภายใต้หัวข้อ ‘Stronger Together เราจะเติบโตและหนักแน่นไปด้วยกัน’ โดยมีผู้ตัดสินเป็นผู้กำกับแถวหน้าของประเทศ แม้ว่าตัวภาพยนตร์จะมาจากมือสมัครเล่น แต่ว่าน้องๆที่เข้าร่วมชิงชัยพวกนี้บางทีอาจได้เป็นบุคลากรในวงการภาพยนตร์ในอนาคตก็เป็นไปได้

7. ภาพยนตร์สั้นชุด อย่าให้คนหลอกลวงมีที่ยืนในสังคม

โดย หน่วยงานต้านคอร์รัปชัน ประเทศไทยหากแม้พวกเราจะเคยชินกับมันในฐานะโฆษณามากยิ่งกว่า แต่เมื่อไปดูในเว็บไซต์ของ องค์กรต้านทานคอร์รัปชัน ประเทศไทย ได้ระบุไว้ว่าประชาสัมพันธ์ชุดนี้เป็นหนังสั้น ว่ามาอย่างนี้ก็จะต้องขอกล่าวถึงซักหน่อยล่ะคร้าบ!!!ภาพยนตร์สั้นที่ออกฉายในรูปแบบโปรโมทตามทีวี ที่ให้นักแสดงที่เป็น ‘คนขี้โกง’ ในลักษณะต่างๆถูกผู้แสดงอื่นๆรุมด่าว่าเหยียดหยามเหยียดหยามก่อนจะปิดด้วยคำขวัญ “อย่าให้คนโกงมีที่ยืนในสังคม” แบบเสียงเข้มๆกระแทกหัวใจจำกันไปจนถึงวันตาย (เราคิดอย่างนี้จริงๆ) ในระหว่างที่พวกเราต้องใจสูงที่สุดก็อาจไม่พ้นขณะที่เด็กน้อยคนหนึ่งไม่มีเพื่อนพ้องยอมมาเล่นด้วยเพราะเป็นลูกของคนโกง …เป็นทั้งน่าเวทนา แล้วระรานให้รู้สึกว่ามันเป็นการกลั่นแกล้งกระทั่งเกินควรหรือไม่ แม้กระนั้นก็แค่หนังอ่ะเนอะ พวกเราบางทีก็อาจจะคิดมากเกินความจำเป็นแหละ

กลับสู่หน้าหลัก https://hobilobby.com